การออกแบบบ้านให้ใชัพลังงานน้อยลง

[Jenny937]

1. ปลูกต้นไม้ทรงสูงเพื่อบังแสงตะวัน โดยที่จะต้องให้มีกระแสลมเย็นพัด ผ่านใต้พุ่มใบในความเร็วที่พอเหมาะพอควร เพื่อลดอุที่ภูเขามิด้านนอกใกล้บริเวณบ้านรวมทั้ง คุ้มครองลมพัดผ่านเข้าตัวบ้านเยอะเกินไป โดยควรจะปลูกต้นไม้ในทิศตะวันออกและ ทิศตะวันตก



2. ควรที่จะเลือกจำพวกต้นไม้ที่เหมาะสมสำหรับใช้เป็นร่มเงาที่มีอยู่ตามท้องถิ่นยกตัวอย่างเช่น ต้นปีบ ต้นอินทนิล ต้นสัตบัน ต้นสุพรรณิกา เป็นต้น เพื่อลดการใช้ปุ๋ย ยาฆ่า แมลงการดูแลรักษา เหตุเพราะต้นไม้กลุ่มนี้มีความเคยชินกับสภาพพื้นที่ รวมทั้งสภาพอากาศในประเทศไทยอยู่แล้ว

3. นำหลักภูเขามิสถาปัตย์มาใช้ เพื่อสร้างสิ่งแวดล้อมบริเวณรอบๆบ้านให้ เย็นสบาย โดยการปลูกพืชคลุมดิน ปลูกต้นหญ้า จัดแต่งสวน จัดทำน้ำตกเลียนแบบ เป็นต้น

4. ถมดินบริเวณรอบบ้านให้สูง เพื่อให้พื้นแล้วก็ผนังนิดหน่อยต่ำลงมากยิ่งกว่าดินทำให้สามารถนำความเย็นจากดินมาใช้ และก็ปลูกไม้พุ่มบริเวณผนังบ้าน



5. ในกรณีที่มีพื้นที่จำกัด บางทีอาจจะปลูกต้นไม้ดัด หรือไม้เลื้อยตามระเบียงหรือรั้ว เพื่อลดลมร้อนพัดผ่านเข้าตัวบ้าน และลดความแรงของแสงแดดที่ ส่องผิวตึก



6. ทำรางน้ำแล้วก็ท่อเพื่อระบายน้ำจากหลังคา หรือส่วนต่างๆข้างในบ้านให้ เหมาะสม เพื่อปกป้องความชุ่มชื้นซึมเข้าไปในบ้าน หรือบางครั้งก็อาจจะทำท่อระบายน้ำที่ได้จาก วิธีสำหรับซักล้างไปใช้รดน้ำต้นไม้

7. หากต้องการทำที่จอดรถ ควรจะทำที่หยุดรถยนต์พร้อมหลังคาในด้านทิศตะวันออก หรือทิศตะวันตก เพื่อเป็นการช่วยลดความร้อนผ่านเข้ามาในตัวบ้านโดยตรง



8. บุฉนวนกันความร้อนที่หลังคาและผนัง โดยความครึ้มของฉนวนที่ใช้จำเป็นต้อง ขึ้นอยู่กับภาระหน้าที่สร้างความเย็น แม้กระนั้นโดยมากใช้ฉนวนที่มีความหนาโดยประมาณ 2-3 นิ้ว (50-75 มม.) ฉนวนสำหรับหลังคาแล้วก็ฝาผนังมีหลายประเภท ดังเช่นว่า ฉนวนใย แก้ว ฉนวนเยื่อกระดาษ ฉนวนเซรามิกลงสีฝาผนังด้านนอกของบ้านเป็นสีอ่อน ใช้วัสดุที่มีผิวมันและกันความชุ่มชื้น

9. ใช้กระเบื้องหลังคาสีอ่อน เพื่อสะท้อนความร้อนเจริญ

10. สำหรับผนังด้านที่มีระเบียงยื่น ควรเลือกใช้ประตูหรือหน้าต่างชนิดบานกลับซึ่งสามารถควบคุมจำนวนลมได้ดีมากยิ่งกว่าการใช้ประตูหรือหน้าต่างประเภทบานเลื่อน

11.ติดตั้งหน้าต่างกระจกเฉพาะที่จำเป็นจะต้องแค่นั้น โดยให้เพียงพอสำหรับการรับแสงไฟจากธรรมชาติ และควรเลี่ยงการต่อว่าดตั้งด้านทิศตะวันออกแล้วก็ตะวันตก

12. ทำกันสาดให้กับหน้าต่างกระจก โดยกันสาดแนวราบเหมาะสมกับหน้าต่าง ที่อยู่ทางทิศเหนือรวมทั้งทิศใต้ เพราะว่าสามารถบังแสงอาทิตย์ในช่วงเที่ยงและก็ช่วง บ่าย ส่วนกันสาดแนวดิ่งเหมาะสมกับหน้าต่างที่อยู่ทิศตะวันออกแล้วก็ทิศตะวันตก



13. ติดตั้งผ้าม่านหรือฉากบริเวณหน้าต่างกระจก เพื่อคุ้มครองความร้อนจากแสง อาทิตย์เข้าข้างในตัวบ้าน ส่วนการต่อว่าดฟิล์มถ่ายรูปกรองแสงสว่างที่กระจกหน้าต่างนั้น แม้จะคุ้มครอง ความร้อนจากแสงแดดได้ดีกว่า แต่ว่าค่าใช้สอยสูงขึ้นมากยิ่งกว่าก็เลยไม่ค่อยเป็นที่นิยม

14. สำหรับห้องนอนหรือห้องที่ปรารถนาปรับอากาศที่ตั้งอยู่บริเวณชั้นสองเหนือ บริเวณที่จอดรถหรือระเบียง ควรจะมีการทาหรือพ่นฉนวนที่ฝ้าเพดานของที่จอดรถ หรือระเบียงนั้นๆเพื่อป้องกันการนำความร้อนจากด้านนอกผ่านใต้พื้นของห้องเข้า สู่ตัวห้อง

15. จัดตั้งพัดลมที่มีไว้ระบายอากาศบนหลังคา เพื่อดูดอากาศร้อนใต้หลังคาออกไป ข้างนอก

16. ทำเฉลียงยื่นพร้อมติดกันสาดในทิศตะวันออกรวมทั้งทิศตะวันตก สำหรับใช้ เป็นที่นั่งกินอาหารว่างหรือใช้หุงหาอาหารนอกบ้านแล้วยังช่วยลดความร้อนเข้ามา ในบ้านอีกด้วย

17. อุดรอยรั่วด้วยซีเมนต์หรือซิลิโคน (Silicone) ที่ช่องติดตั้งโคมไฟ ช่องติด ตั้งพัดลมเพดาน ช่องที่เตรียมไว้สำหรับเดินท่อน้ำ ฯลฯ เพื่อคุ้มครองความ ร้อนจากภายนอกผ่านเข้าช่องเพดาน

18. อุดรอยรั่วตามรอยต่อ ระหว่างผนังขอบประตู หน้าต่าง เพื่อปกป้องความ ร้อนและความชุ่มชื้นจากด้านนอกผ่านเข้าไปในบ้าน ในกรณีที่ห้องนั้นเป็นห้อง ปรับอากาศ

19. จัดวางตู้และก็ชั้นที่เอาไว้สำหรับเพื่อวางของให้สมควร ไม่บังลม ไม่กีดกั้นการระบาย อากาศ และไม่บังแสง

20. จัดวางโต๊ะเขียนหนังสือให้หันหน้าไปในผนังด้านที่รับแสงธรรมชาติได้

21. หมั่นรักษาชำระล้าง พรม ผ้าม่าน โซฟา ไม่ให้เปียกชื้น เพื่อลดภาระสร้างความเย็นเพราะเหตุว่าความร้อนแอบแฝง



22. แบ่งห้องใช้สอยโดยคิดถึงการประหยัดพลังงาน โดยจัดห้องที่ใช้ ตอนเวลาเช้าอยู่ในทิศตะวันออก ส่วนห้องที่ใช้สอยเกือบทั้งวันให้อยู่ทิศเหนือ เพราะจะเย็นสบายที่สุด เช่น ห้องรับแขกอยู่ในทิศเหนือ เป็นต้น

23. ควรจัดตั้งคอนเดนเซอร์ระบายความร้อนด้วยอากาศในที่ร่ม หรือใต้ต้นไม้ รวมทั้งจะต้องไม่มีสิ่งกีดขวางทางลมเข้าแล้วก็ออกจากคอนเดนเซอร์ ในด้านทิศ เหนือของบ้านเป็นด้านที่เหมาะสมที่จะจัดตั้งคอนเดนเซอร์เยอะที่สุด แม้กระนั้นถ้าไม่ สามารถติดตั้งในด้านทิศเหนือก็สามารถติดทางด้านทิศใต้ที่มีกันสาดแทนได้

24. ควรจะติดตั้งคอนเดนเซอร์ในที่ๆสามารถดูแลบำรุงรักษาสบาย และใน ที่ๆไม่ส่งเสียงก่อกวนเข้ามาด้านในห้อง



25. ควรจะติดตั้งอุปกรณ์ควบคุมอุณหภูมิ (Thermostat) ข้างในห้องปรับอากาศ ให้เหมาะสมหมายถึงไม่สมควรได้รับแสงอาทิตย์โดยตรง เพราะเหตุว่าจะมีผลให้เทอร์โมสตัท อ่านค่าบกพร่อง และก็ควรติดตั้งในรอบๆที่สามารถที่จะอ่านค่าอุณหภูมิได้ง่ายและก็ แล้วก็สบายต่อการปรับตั้งค่าอุณหภูมิตามอยากได้

26. ควรจะติดตั้งเครื่องซักผ้า เครื่องอบผ้า ในบริเวณที่ไม่ปรับอากาศและเปิดเตียน เช่น ที่จอดรถ ระเบียงนอกบ้าน เพื่อระบายความร้อนและก็ลดความชื้นที่ปลด ปลดปล่อยมาจากเครื่องใช้ไฟฟ้าพวกนี้ แต่ถ้าจะต้องจัดตั้งในห้องปิด ควรจะจำต้องติด ตั้งพัดลมที่มีไว้เพื่อระบายอากาศ เพื่อคุ้มครองปกป้องการสะสมความร้อนและก็ความชุ่มชื้นข้างในห้อง



27. ตรึกตรองทำห้องครัวให้อยู่นอกตัวบ้าน แต่ว่าถ้าหากหลีกเลี่ยงมิได้ห้องครัวที่อยู่ ภายในตัวบ้านควรจะมีการระบายความร้อนที่ดี เพราะห้องครัวมักประกอบด้วย เครื่องใช้ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์หลากหลายประเภท ตัวอย่างเช่น เตาอบ เตาหุงต้ม กาสำหรับต้มน้ำร้อน ตู้เย็น ซึ่งเป็น แหล่งปล่อยความร้อนที่สำคัญ



28. จัดตั้งเครื่องดูดกลิ่นหรือดูดควันใบริเวณสำนักงานหุงแล้วก็อากาศ ที่ใช้กับเครื่องดูดกลิ่นหรือดูดควันนี้ ควรมาจากภายนอกบ้านไม่สมควรใช้อากาศ เย็นจากเครื่องปรับอากาศโดยตรง

29.เลือกใช้เครื่องใช้ไม้สอยและก็เครื่องใช้ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ประสิทธิภาพสูง นอกจากจะอดออม พลังงานจากตัวมันเองแล้วยังลดความร้อนที่ถูกปลดปล่อยออกมาในเวลาใช้งาน อีกด้วย อาทิเช่น ใช้ตู้แช่เย็นความสามารถสูง ใช้หลอดไฟฟ้าความสามารถสูง ฯลฯ

[Beer625]

ดันๆ

[Hanako5]

 กลับมาดัน ขอบคุณค่ะ

[Beer625]

 ดันกระทู้

[Beer625]

 กลับมาดัน ขอบคุณครับ

[Beer625]

 กลับมาดัน ขอบคุณครับ

[Beer625]

 กลับมาดัน ขอบคุณค่ะ

[Prichas]

 กลับมาดัน ขอบคุณค่ะ

[Beer625]

 กลับมาดัน ขอบคุณค่ะ

[Beer625]

 ดันกระทู้

[Beer625]

ดันๆ

[Hanako5]

 กลับมาดัน ขอบคุณครับ

[Naprapats]

 กลับมาดัน ขอบคุณค่ะ

[Beer625]

 ดันกระทู้

[Naprapats]

 ดันกระทู้