• Welcome to ลงประกาศฟรี โปรโมทเว็บ SEO SMF PBN.
 

✅📢การเจาะสำรวจดิน (Soil Boring Test) ⚡จุดเริ่มต้นที่ดีของ📢การก่อสร้าง🎯

Started by Ailie662, Jul 23, 2024, 11:39 PM

Previous topic - Next topic

Ailie662

ลักษณะชั้นดินในหลายพื้นที่ของประเทศไทยอาจมีการแปรปรวน ✅ทำให้ลักษณะพื้นที่ไม่เหมือนกับพื้นที่ทั่วไป 🥇เช่น มีชั้นทรายหลวมผิดปกติ ชั้นดินเหนียวอ่อน หรือระดับความลึกของชั้นดินที่แข็งแรงมีความผันแปรสูง 📌เป็นต้น จากสภาพของชั้นดินดังกล่าว อาจทำให้ฐานรากพังได้ ✨ซึ่งทำให้เกิดความเสียหายอย่างคาดไม่ถึง ก่อนที่การออกแบบฐานรากให้ดีและเหมาะสมนั้น 🌏จึงต้องจัดให้มีการสำรวจดินอย่างเพียงพอ เพื่อให้การออกแบบสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ เป็นไปอย่างละเอียดรอบครอบ ถูกต้องตามหลักวิศวกรรม 🌏เพื่อการวิเคราะห์ดินอย่างละเอียด 🛒เมื่อทราบข้อมูลเกี่ยวกับดินในส่วนใดแล้ว จะต้องมีการวางแผนการเจาะดิน เพื่อให้ประหยัดทั้งเวลาและเงินทุน พร้อมกับได้ข้อมูลที่ถูกต้อง 🌏เพราะดินมีคุณสมบัติที่ซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงไปตามสถานที่ต่าง ๆ ✅จึงยังไม่มีวิธีใดที่เหมาะสมที่สุดไปกับดินทุกสภาพ🥇



โครงสร้างหลาย ๆ อย่าง 📌จะมีความแข็งแรง ต้องมีฐานรากที่มั่นคงรองรับ 🥇ในการออกแบบฐานรากนั้น การสำรวจชั้นดินมีความสำคัญอย่างมาก 📌ที่จะทำให้วิศวกรสามารถออกแบบฐานรากได้อย่างปลอดภัยตามหลักวิศวกรรม ⚡สำหรับขอบเขตและรายละเอียดของงานที่จะทำการสำรวจนั้นขึ้นอยู่กับลักษณะของโครงการ 🦖และสภาพชั้นดิน 🦖โดยวิศวกรออกแบบควรกำหนดรายละเอียดการสำรวจเพื่อให้ได้ข้อมูลที่เพียงพอต่อการวิเคราะห์และออกแบบ ✅บริการทดสอบดินและจัดทำรายงานวิเคราะห์ความยาวเสาเข็ม โดยวิศวกรผู้เชี่ยวชาญ🦖

การสำรวจดินเบื้องต้น 🎯คือการขุดหรือเจาะดินเล็กน้อย ✨เพื่อต้องการทราบชนิดของดิน ลำดับชั้นดิน 👉ระดับน้ำใต้ดินและอื่น ๆ อันจะเป็นประโยชน์ในการวางแผนและเตรียมเครื่องมือได้อย่างเหมาะสม 🌏ส่วนการเจาะสำรวจดินอย่างละเอียด เป็นการวางแผนเจาะดินอย่างละเอียดเกี่ยวกับการเจาะสารวจชั้นดิน ✨โดยทั่วไปจะระบุ ตำแหน่งเจาะดิน จำนวนหลุมเจาะดิน ความลึกของหลุมสำรวจ👉 การทดสอบด้านใดบ้าง ✨โดยปกติแล้วจะต้องการข้อมูลสำหรับการวิเคราะห์ความแข็งแรงของดินและการคำนวณการทรุดตัวของสิ่งก่อสร้าง🌏

📌🦖🎯การเก็บตัวอย่างดินมี 2 ลักษณะ คือ🦖🎯✅

📢1. ดินที่ถูกรบกวน (Disturbed Sample) ⚡เป็นตัวอย่างดินที่ถูกรบกวน 🥇จนทำให้โครงสร้างและการจับตัวของเม็ดดินเปลี่ยนแปลง 🥇หรืออาจจะสูญเสียความชื้นในดิน อาจเกิดจากวิธีการเก็บตัวอย่างดิน👉 กระบวนการขนส่ง และการเก็บรักษาตัวอย่างดิน ⚡ซึ่งได้แก่ตัวอย่างดินที่เก็บด้วยสว่านมือ 👉และตัวอย่างดินที่ได้จากการตอกวัดค่าด้วยกระบอกผ่า ดินที่ได้ไม่สามารถนำไปทดสอบด้านการรับน้ำหนักของดินได้ 🥇เนื่องจากดินได้รับผลกระทบจากการกระแทก การอัด 🥇ซึ่งโครงสร้างของดินได้เปลี่ยนไป แต่สามารถนำไปหาคุณสมบัติเพื่อจำแนกประเภทของดินได้🌏

📢2. ตัวอย่างดินคงสภาพ (Undisturbed Sample) 🥇เป็นตัวอย่างดินที่เก็บในสนาม 🌏โดยพยายามให้โครงสร้างและองค์ประกอบของดินยังคงเหมือนเดิมตามธรรมชาติ 👉ซึ่งได้แก่ตัวอย่างดินที่เก็บจากกระบอกบางเส้นผ่าศูนย์กลางตั้งแต่ 3 นิ้วขึ้นไป ✅ถือว่าเป็นตัวอย่างดินคุณภาพสูง ✨สามารถนำไปทดสอบคุณสมบัติต่าง ๆ ในห้องปฏิบัติการได้เกือบทุกประเภท ⚡รวมถึงการทดสอบความแข็งแรงและการรับน้ำหนักของดิน✅